ADP แปลงเป็น ATP อย่างไร

Posted on
ผู้เขียน: Laura McKinney
วันที่สร้าง: 3 เมษายน 2021
วันที่อัปเดต: 19 พฤศจิกายน 2024
Anonim
ATP Cycle
วิดีโอ: ATP Cycle

เนื้อหา

Adenosine diphosphate และ adenosine triphosphate เป็นโมเลกุลอินทรีย์ที่รู้จักกันในชื่อนิวคลีโอไทด์ที่พบในเซลล์พืชและสัตว์ทั้งหมด ADP ถูกแปลงเป็น ATP สำหรับการจัดเก็บพลังงานโดยการเพิ่มกลุ่มฟอสเฟตพลังงานสูง การแปลงเกิดขึ้นในสารระหว่างเยื่อหุ้มเซลล์และนิวเคลียสหรือที่เรียกว่าไซโตพลาสซึมหรือในโครงสร้างการผลิตพลังงานพิเศษที่เรียกว่าไมโตคอนเดรีย

สมการทางเคมี

การแปลง ADP เป็น ATP สามารถเขียนเป็น ADP + Pi + พลังงาน→ ATP หรือในภาษาอังกฤษ adenosine diphosphate บวกฟอสเฟตอนินทรีย์และพลังงานให้ adenosine triphosphate พลังงานจะถูกเก็บไว้ในโมเลกุล ATP ในพันธะโควาเลนต์ระหว่างกลุ่มฟอสเฟตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพันธะระหว่างกลุ่มฟอสเฟตที่สองและสามเรียกว่าพันธะไพโรฟอสเฟต

เคมีฟอสฟอรัส

การเปลี่ยน ADP เป็น ATP ในเยื่อหุ้มชั้นในของไมโตคอนเดรียเป็นที่รู้จักกันในทางเทคนิคว่า ถุงเมมเบรนบนผนังของ mitrochondria มีโซ่เอนไซม์ประมาณ 10,000 อันซึ่งได้รับพลังงานจากโมเลกุลอาหารหรือการสังเคราะห์ด้วยแสง - การสังเคราะห์โมเลกุลอินทรีย์ที่ซับซ้อนจากคาร์บอนไดออกไซด์น้ำและเกลืออนินทรีย์ - ในพืชผ่านสิ่งที่เรียกว่าการขนส่งอิเล็กตรอน โซ่

ATP ซินเทส

การเกิดออกซิเดชันของเซลล์ในวงจรของปฏิกิริยาการเผาผลาญของเอนไซม์ที่เรียกว่าวงจร Krebs สร้างอนุภาคที่มีประจุลบที่เรียกว่าอิเล็กตรอนซึ่งจะผลักไอออนไฮโดรเจนที่มีประจุบวกหรือโปรตอนข้ามเยื่อหุ้มไมโตคอนเดรียมภายในเข้าไปในห้องชั้นใน พลังงานที่ถูกปล่อยออกมาจากศักย์ไฟฟ้าข้ามเมมเบรนทำให้เกิดเอนไซม์ที่เรียกว่า ATP synthase เพื่อติดกับ ADP ATP synthase เป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนและหน้าที่ของมันคือการเร่งการเพิ่มกลุ่มฟอสฟอรัสตัวที่สามในการสร้าง ATP ATP synthase complex สามารถสร้าง ATP โมเลกุลได้มากกว่า 100 โมเลกุลในแต่ละวินาที

แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้

เซลล์ที่มีชีวิตใช้ ATP ราวกับว่ามันเป็นพลังงานจากแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ การแปลง ADP เป็น ATP จะเพิ่มพลังงานในขณะที่กระบวนการเซลลูล่าร์อื่นเกือบทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการสลาย ATP และมีแนวโน้มที่จะคายพลังงาน ในร่างกายมนุษย์โมเลกุลเอทีพีทั่วไปเข้าสู่ไมโตคอนเดรียเพื่อเติมพลังเป็น ADP หลายพันครั้งต่อวันเช่นความเข้มข้นของเอทีพีในเซลล์ทั่วไปนั้นสูงกว่า ADP ประมาณ 10 เท่า กล้ามเนื้อโครงร่างต้องการพลังงานจำนวนมากสำหรับการทำงานเชิงกลดังนั้นเซลล์กล้ามเนื้อจึงมีไมโตคอนเดรียมากกว่าเซลล์ประเภทเนื้อเยื่ออื่น ๆ